ฮวงจุ้ยสุสาน หลักการทำ แซกีคือ (Sheng Ji)

                                                                                                                                                                             English      中文  

 
บทสรุปศาสตร์พลิกชะตา: ฮวงจุ้ยสุสานและแซกี 

แนวคิดพื้นฐาน: สมการแห่งโชคชะตา ความสำเร็จในชีวิตตามหลักปรัชญาจีนมาจาก 3 ปัจจัยที่สมดุลกัน :   

ชะตาฟ้า (天時): พรหมลิขิตและจังหวะเวลา

ชะตาคน (人和): การกระทำ ความพยายาม และคุณธรรม

ชะตาดิน (地利): พลังงานจากสภาพแวดล้อม (ฮวงจุ้ย)

หลักการทำแซกี (Sheng Ji) และฮวงจุ้ยสุสานที่เป็นรากฐานแห่งโชคชะตา อธิบาย 3 ปัจจัยกำหนดโชคชะตา คือ ชะตาฟ้า (天时), ชะตาคน (人和), และชะตาดิน (地利) ซึ่งการทำแซกีคือการใช้พลังจากชะตาดิน (ฮวงจุ้ย) เพื่อพลิกฟื้นและเสริมดวงชะตา

ศาสตร์ฮวงจุ้ยสุสาน (อิมไจ๋ - 陰宅) อธิบายว่าการเลือกสุสานมงคลให้บรรพบุรุษ สามารถกำหนดความสำเร็จของลูกหลานได้ถึง 70% โดยพลังงาน "ชี่" จะถูกส่งผ่าน DNA มายังวงศ์ตระกูล ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการเลือกฮวงซุ้ยและทำแซกี (Sheng Ji) เพื่อเสริมดวง

อินโฟกราฟิกอธิบาย 4 องค์ประกอบหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยสุสานมงคลและการทำแซกี (Sheng Ji) ประกอบด้วย 1. ชัยภูมิ (ทำเลที่ตั้ง ภูเขา แหล่งน้ำ) 2. ทิศทาง (องศา) 3. บุคคล (ดวงชะตา) และ 4. ฤกษ์ยาม (เวลา) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกสุสานเพื่อเสริมดวงชะตาและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง

 

อินโฟกราฟิกอธิบายชัยภูมิในอุดมคติ หรือ "ศาสตร์ฮวงจุ้ย 4 สัตว์เทพผู้พิทักษ์" ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการเลือกสุสานมงคล (ฮวงซุ้ย) และทำแซกี (Sheng Ji) ประกอบด้วย 1. เต่าดำ (ด้านหลัง) เสริมความมั่นคง 2. มังกรเขียว (ซ้าย) เสริมบารมี 3. เสือขาว (ขวา) ช่วยปกป้อง และ 4. หงส์แดง (ด้านหน้า) สร้างโอกาส เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้วงศ์ตระกูล

อินโฟกราฟิกอธิบายศาสตร์พลิกชะตา คือการทำแซกี (生基) หรือสุสานคนเป็น ซึ่งเป็นศาสตร์ฮวงจุ้ยขั้นสูง (แซกีจักรพรรดิ) ที่ช่วยเสริมดวง โดยแสดงเป้าหมายและผลลัพธ์ 5 ประการที่คาดหวังได้ คือ การงานก้าวหน้า, เสริมโชคลาภ, เสริมสุขภาพ, เพิ่มเสน่ห์, และแก้ไขดวงชะตา

อินโฟกราฟิกอธิบายว่า "ใครที่ควรทำแซกี" (Sheng Ji) หรือสุสานคนเป็น เพื่อเสริมดวงและแก้ปัญหาชีวิต เหมาะสำหรับ 5 กลุ่มหลัก: 1. ผู้ที่การงานติดขัด 2. ผู้ที่ดวงตกหรือปีชง 3. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง 4. ผู้ที่ขาดพลังบรรพชน และ 5. ผู้ที่ต้องการยกระดับชีวิตสู่ความสำเร็จสูงสุด

อินโฟกราฟิกอธิบายว่า "พิธีแซกีใช้อะไรบ้าง" (Sheng Ji) ซึ่งเป็นสิ่งของแทนตัวหรือสื่อกลางพลังงานที่ใช้ในการทำสุสานคนเป็นเพื่อเสริมดวงชะตา ประกอบด้วย 3 สิ่งสำคัญ: 1. DNA โดยตรง (เส้นผม, เล็บ, เลือด) 2. พลังงานปัจจุบัน (เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว) และ 3. ที่อยู่ทางจิตวิญญาณ (ป้ายดวงชะตา)

อินโฟกราฟิกอธิบายคุณสมบัติ "แซกีเต่ามังกร" (龍龜) ซึ่งเป็นศาสตร์การทำแซกี (Sheng Ji) รูปแบบประยุกต์ (หรือ แซกีจักรพรรดิ) ที่ช่วยเสริมดวง 2 พลังในหนึ่งเดียว คือ พลังหัวมังกร (เสริมอำนาจ, บารมี, ความสำเร็จ) และพลังกระดองเต่า (เสริมอายุยืนยาว, สุขภาพ, การปกป้อง)

บทสรุปกุญแจสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน อธิบายว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยมงคล, ฮวงจุ้ยสุสาน, และพิธีแซกี (Sheng Ji) คือ "ชะตาดิน" (地利) ซึ่งเป็นเครื่องมือเปิดโอกาส ที่เมื่อรวมกับ "ชะตาฟ้า" (天时) และ "ชะตาคน" (人和) จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

รากฐานแห่งโชคชะตา: คู่มือฉบับสมบูรณ์ว่าด้วยฮวงจุ้ยสุสานและศาสตร์แห่งการทำแซกี

บทนำ: พลังแห่งฟ้า ดิน คน - ความเชื่อมโยงระหว่างบรรพชนและผู้มีชีวิต

 

ในแก่นแท้ของอภิปรัชญาจีน โชคชะตาของมนุษย์มิได้ถูกกำหนดขึ้นโดยปัจเจกบุคคลเพียงลำพัง แต่เป็นผลลัพธ์อันซับซ้อนจากปฏิสัมพันธ์ของสามปัจจัยหลัก ได้แก่

  1. ชะตาฟ้า (天時 - Tian Shi) อันหมายถึงจังหวะเวลาและพรหมลิขิต
  2. ชะตาคน (人和 - Ren He) ซึ่งก็คือการกระทำ คุณธรรม และความมุมานะพยายาม และ
  3. ชะตาดิน (地利 - Di Li) หรือสภาพแวดล้อมและพลังงานของสถานที่ตามหลักฮวงจุ้ย

กรอบความคิดนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจศาสตร์ฮวงจุ้ยทั้งสองแขนงหลัก คือ ฮวงจุ้ยสำหรับผู้มีชีวิต หรือ "หยางไจ๋" (陽宅) ซึ่งเกี่ยวข้องกับบ้านเรือนและอาคาร และฮวงจุ้ยสำหรับผู้ล่วงลับ หรือ "อิมไจ๋" (陰宅) ที่ว่าด้วยการเลือกที่ตั้งสุสาน 

 

ในบรรดาศาสตร์ทั้งสอง "อิมไจ๋" มักถูกมองว่ามีอิทธิพลรุนแรงและลึกซึ้งกว่า เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับรากฐานพลังงานของวงศ์ตระกูล แกนกลางของความเชื่อนี้ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่ามีสายใยพลังงานที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงระหว่างอัฐิของบรรพบุรุษกับความเป็นอยู่ของลูกหลานที่ยังมีชีวิต ความเชื่อมโยงนี้ ซึ่งเชื่อว่าส่งผ่านทางสายเลือด ทำหน้าที่เป็นท่อส่ง "พลังชี่" (氣) หรือพลังชีวิตที่สะสม ณ ที่ตั้งของสุสานมาสู่ลูกหลาน ส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของตระกูลไปอีกหลายชั่วอายุคน ดังนั้น สภาพของสุสาน ไม่ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีหรือถูกทอดทิ้งรกร้าง จะสะท้อนถึงสถานะชีวิตของทายาทโดยตรง  

 

การให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยสุสานจึงเป็นการยกระดับแนวคิดเรื่องความกตัญญูต่อบรรพชน จากเพียงการประกอบพิธีกรรมทางวัฒนธรรมไปสู่การบริหารจัดการพลังงานเชิงรุก การแสดงความกตัญญูในมุมมองนี้ไม่ได้เป็นเพียงหน้าที่ทางศีลธรรม แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตของวงศ์ตระกูล การเลือกสุสานในทำเลที่ดีจึงไม่ใช่แค่การมอบที่พักพิงสุดท้ายอันสงบสุข แต่คือการวางตำแหน่ง "เครื่องรับและส่งสัญญาณ" พลังงานให้กับสายเลือดทั้งหมดอย่างมีเป้าหมาย 

สานมงคล (ฮวงซุ้ย) ทำเลอยู่แล้วรวย ช่วยให้ลูกหลานมีเงินทองไหลมาเทมา เสริมความมั่งคั่งและโชคลาภสูงสุด 

  • ส่วนที่ 1: ศาสตร์แห่งบรรพชน - เจาะลึกฮวงจุ้ยสุสาน (อิมไจ๋) 

ส่วนนี้จะนำเสนอองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหลักการและการประยุกต์ใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ยสุสาน หรือ "อิมไจ๋" ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการกำหนดทิศทางความเป็นไปของวงศ์ตระกูล 

  • 1.1 ปรัชญาและความสำคัญ: ทำไมสุสานจึงกำหนดชะตาลูกหลาน 

ปรัชญาของ "อิมไจ๋" ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่ากระดูกของบรรพบุรุษซึ่งมีสภาวะเป็น "อิม" (หยิน) จะดูดซับพลังงานจากสภาพแวดล้อมหรือ "พลังชี่" ซึ่งมีสภาวะเป็น "เอี๊ยง" (หยาง)  พลังงานที่ถูกดูดซับนี้จะสร้างแรงสั่นสะเทือนและส่งผ่านไปยังลูกหลานที่ยังมีชีวิตผ่านสายเลือดหรือ DNA ที่มีร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของพวกเขาโดยตรง ด้วยเหตุนี้ การเลือกทำเลที่ตั้งสุสานที่ถูกต้องจึงเปรียบเสมือนการวางรากฐานพลังงานให้กับวงศ์ตระกูล

การจัดเตรียมสุสานที่ดีจึงถูกมองว่าเป็นความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่งของบุตรหลาน เป็นการแสดงความกตัญญูครั้งสุดท้ายที่สามารถส่งผลดีต่อไปในอนาคต  นอกจากนี้ การเตรียมสุสานไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ยังถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ช่วยป้องกันความขัดแย้งระหว่างทายาทในอนาคต และสร้างความมั่นใจว่าพิธีการต่างๆ จะถูกจัดทำขึ้นอย่างถูกต้องตามเจตนารมณ์  อิทธิพลของฮวงจุ้ยสุสานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ถึงขนาดมีความเชื่อว่าฮวงจุ้ยบรรพบุรุษที่ดีอาจเป็นปัจจัยกำหนดความสำเร็จในชีวิตได้ถึง 70% เปรียบเสมือนการเดินทางบนเส้นทางที่บรรพบุรุษได้ปูไว้ให้แล้วอย่างราบรื่น 

 

  • 1.2 องค์ประกอบหลัก 4 ประการสู่สุสานมงคล 

ความสำเร็จในการเลือกสุสานตามหลัก "อิมไจ๋" ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์พร้อมขององค์ประกอบหลัก 4 ประการ ซึ่งต้องสอดประสานกันอย่างลงตัว 

  1. ชัยภูมิ (Landscape): ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่โดยรอบ ทั้งภูเขา แหล่งน้ำ และผืนดิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกักเก็บพลังงาน

  2. ทิศทาง (Direction): องศาที่แน่นอนของป้ายสุสาน ซึ่งต้องคำนวณอย่างละเอียดเพื่อให้สอดคล้องกับดวงชะตาของผู้ล่วงลับและส่งเสริมลูกหลาน

  3. บุคคล (Person): ความสมพงศ์ระหว่างธาตุปีเกิดของผู้ล่วงลับกับทิศทางของสุสาน รวมถึงความสัมพันธ์กับดวงชะตาของลูกหลานแต่ละคน

  4. ฤกษ์ยาม (Timing): การเลือกวันและเวลาที่เป็นมงคลสำหรับการก่อสร้าง บูรณะ หรือทำพิธีฝัง ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการกระตุ้นพลังงานที่ดี

    ดิน 5 สี (五色土) ที่พบในที่ดินฮวงจุ้ยสำหรับทำแซกี (Sheng Ji) สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และพลังงานธาตุทั้งห้า เป็นชัยภูมิที่ดีที่สุดสำหรับทำสุสานคนเป็น เพื่อเสริมความมั่งคั่ง โชคลาภ บารมี และสุขภาพ

 

  • 1.3 การถอดรหัสชัยภูมิ (ตี่ลี่): ตามรอยมังกร สู่แหล่งพลังงาน 

การประเมินชัยภูมิที่ดีเปรียบเสมือนการค้นหา "ถ้ำมังกร" หรือจุดที่พลังงานชี่มารวมตัวกันมากที่สุด โดยใช้สัญลักษณ์ของมังกร (龍) ในการอธิบายลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ 

ภูเขา (Mountains): เปรียบดัง "ร่างกายของมังกร" สื่อถึงความมั่นคง อำนาจ และบารมี

✅แนวหิน (Rock Formations): คือ "กระดูกของมังกร" บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของกระแสพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ภายใน

✅พื้นดิน (Soil): เป็น "เนื้อของมังกร" ดินที่ดีควรมีสีสดใสและอุดมสมบูรณ์ สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวา

✅สายน้ำ (Water Flow): คือ "เลือดของมังกร" หมายถึงโชคลาภและความมั่งคั่ง การไหลเวียนของโอกาสทางธุรกิจ

ต้นไม้ (Vegetation): เปรียบเสมือน "ผิวของมังกร" พืชพรรณที่เขียวชอุ่มแสดงถึงพลังชีวิตที่สมบูรณ์ของพื้นที่

 

⭐ การใช้คำศัพท์เชิงกายวิภาคศาสตร์เหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเปรียบเปรย แต่สะท้อนถึงโลกทัศน์ที่มองว่าผืนดินไม่ใช่เพียงสสารที่หยุดนิ่ง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังงานไหลเวียนอยู่ภายใน การเลือกฮวงจุ้ยที่ดีจึงไม่ต่างจากการทำ "ภูมิศาสตร์ฝังเข็ม" คือการค้นหาจุดชีพจรพลังงานบนร่างกายของโลก แล้วนำอัฐิของบรรพบุรุษไปวางไว้เพื่อเชื่อมต่อกับพลังงานนั้น ด้วยเหตุนี้ ลักษณะของชัยภูมิที่เสียหาย เช่น ภูเขาที่แตกหักหรือแหล่งน้ำที่เน่าเสีย จึงถือเป็นลางร้ายอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับการนำบรรพบุรุษไปไว้ในส่วนที่ "เจ็บป่วย" ของร่างกายโลก ซึ่งจะส่งต่อพลังงานลบนั้นมาสู่ลูกหลาน

 

  • 1.4 กองทัพสวรรค์: สัตว์เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ 

ชัยภูมิในอุดมคติจะต้องมีองค์ประกอบของ "สัตว์เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่" ครบถ้วน ซึ่งทำหน้าที่โอบล้อมและกักเก็บพลังงานไว้ ณ จุดศูนย์กลาง 

✅เต่าดำ (Black Tortoise): คือภูเขาหรือเนินดินสูงที่อยู่ด้านหลังของสุสาน ทำหน้าที่ให้การสนับสนุน ปกป้อง และสร้างความมั่นคง หากไม่มีเต่าดำจะทำให้ขาดบารมีและผู้เกื้อหนุน 

✅มังกรเขียว (Green Dragon): คือแนวเนินเขาที่อยู่ทางด้านซ้าย (เมื่อมองออกจากสุสาน) เป็นตัวแทนของพลังหยาง บารมี อำนาจ และลูกหลานฝ่ายชาย ควรมีลักษณะสูงและโดดเด่นกว่าเสือขาวเล็กน้อย 

✅เสือขาว (White Tiger): คือแนวเนินเขาทางด้านขวา เป็นตัวแทนของพลังหยิน การปกป้อง และลูกหลานฝ่ายหญิง ควรมีลักษณะเตี้ยและสงบนิ่งกว่ามังกรเขียว เพื่อรักษาสมดุลและป้องกันความขัดแย้ง

✅หงส์แดง (Red Phoenix): คือพื้นที่ว่างหรือลานโล่งด้านหน้า อาจมีเนินดินเตี้ยๆ หรือแหล่งน้ำอยู่ด้วย เป็นตัวแทนของโอกาสในอนาคต วิสัยทัศน์ และความสามารถในการสะสมทรัพย์สมบัติ หากพื้นที่ด้านหน้าถูกบดบังจะทำให้โอกาสตีบตัน

 

  • 1.5 ชัยภูมิที่ควรเลือกและควรเลี่ยง: คู่มือภาคปฏิบัติ 

การประเมินชัยภูมิมงคลและอัปมงคล ในทางปฏิบัติคือการสังเกตและวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่นั้นเหมาะสมหรือไม่

อินโฟกราฟิกเปรียบเทียบลักษณะชัยภูมิที่เป็น "มงคล" และ "อัปมงคล" สำหรับการเลือกฮวงจุ้ยสุสาน (ฮวงซุ้ย) และทำแซกี (Sheng Ji) โดยอธิบาย 4 องค์ประกอบสำคัญ: ภูเขา, สายน้ำ, ด้านหน้า, และดิน/พืชพรรณ เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้ลูกหลานและหลีกเลี่ยงอุปสรรค

 

  • ส่วนที่ 2: ศาสตร์แห่งการพลิกชะตา - การทำแซกี (เจ่าอุ่ง) สุสานคนเป็น 

จากศาสตร์ที่เน้นอิทธิพลจากบรรพบุรุษ สู่ศาสตร์แห่งการปรับเปลี่ยนโชคชะตาของตนเองในปัจจุบัน "แซกี" คือการประยุกต์ใช้หลัก "อิมไจ๋" สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อสร้างอนาคตด้วยมือของตนเอง

 

  • 2.1 นิยามและวัตถุประสงค์: การสร้างรากฐานชีวิตใหม่ 

"แซกี" (生基) มีความหมายตรงตัวว่า "รากฐานแห่งชีวิต" นี่คือศาสตร์แห่งการสร้าง "สุสานคนเป็น" หรือ "เจ่าอุ่ง" โดยการนำสิ่งของที่เป็นตัวแทนของบุคคลไปฝังในพื้นที่ที่มีฮวงจุ้ยดีเลิศ เพื่อให้บุคคลนั้นสามารถดูดซับพลังงานชี่มงคลได้โดยตรง ในอดีตศาสตร์นี้เป็นเคล็ดลับที่สงวนไว้สำหรับจักรพรรดิและชนชั้นสูงเท่านั้น

  • วัตถุประสงค์หลักของการทำแซกีคือการแก้ไขจุดอ่อนในดวงชะตากำเนิด (ปาจื้อ) และเสริมสร้างโชคชะตาในเชิงรุก กล่าวคือ เป็นการเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี บรรเทาเคราะห์หนักให้เป็นเบา และส่งเสริมจุดแข็งที่มีอยู่ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ประโยชน์หลักที่คาดว่าจะได้รับจากการทำแซกีมี 7 ประการ
  1. อายุยืนยาว: เสริมสร้างสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง

  2. สุขภาพจิตที่แข็งแกร่ง: เพิ่มพลังบวกและความสามารถในการฟื้นตัวจากปัญหา

  3. เปลี่ยนโชคชะตา: แก้ไขข้อบกพร่องในดวงชะตา ทำให้ชีวิตราบรื่นขึ้น

  4. ตำแหน่ง ลาภยศ: ดึงดูดผู้ใหญ่อุปถัมภ์และส่งเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

  5. สืบทอดตระกูล: ส่งเสริมให้มีบุตรหลานที่ดีและเจริญรุ่งเรือง

  6. เพิ่มเสน่ห์และสง่าราศรี: ทำให้เป็นที่รักใคร่และได้พบเจอคู่ครองที่ดี

  7.  สั่งสมพลังบวก: ส่งเสริมการเป็นคนดีมีคุณธรรม ซึ่งจะดึงดูดโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

     

    นักธุรกิจทำแซกี (Sheng Ji) สุสานคนเป็น เพื่อเสริมดวงธุรกิจ การค้า และการเงิน ดึงดูดโชคลาภและความมั่งคั่ง ช่วยให้กิจการรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่ง

 

  • 2.2 ใครที่ควรทำแซกี : การวิเคราะห์ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด 

การทำแซกีเหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลต่อไปนี้

⭐ผู้ที่เผชิญอุปสรรค: นักธุรกิจที่การค้าไม่ราบรื่น หรือบุคคลที่การงานติดขัด มีอุปสรรคมาก 

⭐มีปัญหาสุขภาพ: ผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รักษาได้ยาก หรือโรคภัยที่ไม่ทราบสาเหตุ

⭐ดวงตกหรืออยู่ในช่วงเคราะห์: บุคคลที่ประสบกับช่วงเวลาที่โชคไม่ดี หรืออยู่ในช่วงปีชง

⭐ขาดพลังจากบรรพชน: ผู้ที่บรรพบุรุษได้รับการฌาปนกิจไปแล้ว ทำให้ไม่มีสุสาน (อิมไจ๋) คอยส่งพลังงานสนับสนุน

⭐มีปัญหาความสัมพันธ์: ผู้ที่ชีวิตสมรสไม่ราบรื่น หรือครอบครัวมีความขัดแย้งแตกแยก

⭐ต้องการยกระดับชีวิต: ผู้ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการส่งเสริมศักยภาพของตนเองให้ถึงขีดสุดในด้านการเงิน การงาน และความสำเร็จ

 

  • 2.3 กระบวนการและพิธีกรรมโดยละเอียด: จาก DNA สู่ขุมพลังแห่งจักรวาล 

พิธีกรรมการทำแซกีเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้:

  1. การวิเคราะห์ดวงชะตา (Destiny Analysis): ซินแสผู้เชี่ยวชาญจะวิเคราะห์ดวงจีน (ปาจื้อ) ของเจ้าชะตาอย่างละเอียด เพื่อหาจุดแข็ง จุดอ่อน และธาตุที่ต้องการเพื่อสร้างสมดุล นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาดวงของสมาชิกในครอบครัวเพื่อป้องกันพลังงานที่ขัดแย้งกัน

  2. การเลือกชัยภูมิและทิศทาง (Site & Direction Selection): ซินแสจะค้นหาพื้นที่ที่มีพลังฮวงจุ้ยที่ดีเยี่ยม และคำนวณองศาการฝังที่เฉพาะเจาะจงกับดวงของเจ้าชะตา เพื่อให้เกิดการส่งเสริมอย่างสูงสุด

  3. การหาฤกษ์ยามมงคล (Auspicious Date Selection): การเลือกวันและเวลาที่เหมาะสมในการประกอบพิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สอดคล้องกับพลังงานของฟากฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพของพิธีกรรม

     

    แซกีเต่ามังกร (龍龜生基) เพื่อพลิกดวงและเสริมดวงชะตา บนสุดยอดฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด เป็นศาสตร์ที่ใช้พลังฮวงจุ้ยที่ดีมาช่วยเสริมพลังดวงชะตา เสริมบารมี สุขภาพ (เต่ามังกร) นำมาซึ่งความมั่งคั่งสูงสุด แซกีจักรพรรดิ ผ่อนชำระแซกี ราคาแซกี
  4. การเตรียมสิ่งของแทนตัว (Preparation of DNA Proxies): เจ้าชะตาจะต้องรวบรวมสิ่งของที่เป็นตัวแทนพลังงานของตนเอง ซึ่งเป็นหัวใจของพิธี

  5. พิธีบวงสรวง (Opening Ceremony): ในวันพิธี จะมีการไหว้บวงสรวงเจ้าที่เจ้าทาง (ทีกง, แป๊ะกง) เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่และพลังงานจากธรรมชาติ

  6. การบรรจุโถและการอธิษฐาน (Jar Sealing & Aspiration): สิ่งของแทนตัวและป้ายดวงชะตาจะถูกบรรจุลงในโถเซรามิก จากนั้นเจ้าชะตาจะทำการอธิษฐาน ตั้งจิตมั่นถึงเป้าหมายที่ต้องการ และเชื่อมต่อกับพลังงานของสถานที่

  7. การฝังตามองศา (Precise Burial): ซินแสจะนำโถไปวางในหลุมที่เตรียมไว้ตามทิศทางองศาที่คำนวณไว้อย่างแม่นยำ

  8. การปิดหลุม (Sealing the Site): หลุมจะถูกกลบด้วยดินหรือทรายละเอียด เพื่อ "ล็อก" ตำแหน่งและองศาของโถให้คงที่ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

 

  • 2.4 สิ่งของแทนตัว (DNA): สื่อกลางแห่งพลังงานชีวิต 

สิ่งของที่ใช้ในพิธีแซกีไม่ใช่ของทั่วไป แต่เป็นตัวแทนทางกายภาพที่เข้มข้นที่สุดของพลังชีวิตและตัวตนของเจ้าชะตา:

ผม, เล็บ, เลือด, น้ำลาย: สิ่งเหล่านี้คือแหล่ง DNA โดยตรง ถือเป็นพิมพ์เขียวทางกายภาพและเป็นสื่อเชื่อมต่อกับพลังชี่ส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด โดยเฉพาะเส้นผมที่เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของกระดูกและแก่นแท้ของชีวิต 

เสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่อ: เสื้อผ้าที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีกลิ่นกายและสนามพลังงานเฉพาะตัวของเจ้าชะตา เป็นตัวแทนของพลังงานในปัจจุบัน

ป้ายดวงชะตา: แผ่นป้ายที่จารึกชื่อและข้อมูลวันเดือนปีเกิดของเจ้าชะตา ทำหน้าที่เหมือน "ที่อยู่ทางจิตวิญญาณ" เพื่อให้แน่ใจว่าพลังงานจะถูกส่งไปยังบุคคลที่ถูกต้อง

การเกิดขึ้นของศาสตร์แซกีสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการทางปรัชญาที่สำคัญ ในขณะที่ฮวงจุ้ยสุสาน (อิมไจ๋) มีลักษณะเป็น "คติรวมหมู่" ที่เน้นประโยชน์ของวงศ์ตระกูลโดยรวม, ศาสตร์แซกีกลับมีลักษณะเป็น "ปัจเจกนิยม" อย่างชัดเจน พิธีกรรมนี้มุ่งเน้นไปที่การเสริมดวง "เฉพาะบุคคล" และให้อำนาจแก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในการสร้างรากฐานพลังงานของตนเองขึ้นมาใหม่ เปรียบเสมือนการเป็น "บรรพบุรุษ" ให้กับโชคชะตาของตนเอง แทนที่จะรอรับพรจากมรดกทางพลังงานเพียงอย่างเดียว

 

  • ส่วนที่ 3: รูปแบบประยุกต์และข้อพิจารณาในปัจจุบัน 

ในยุคสมัยใหม่ ศาสตร์โบราณเหล่านี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนและนำเสนอในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

รูปหล่อทองสัมฤทธ์เทพเต่ามังกรองค์จริง หน้าพระราชวังต้องห้าม ประเทศจีน  แซกีเสริมดวง โชคลาภ ธุรกิจ สุขภาพ

 

  • 3.1 กรณีศึกษาพิเศษ: แซกีเต่ามังกร (龍龜生基) 

"แซกีเต่ามังกร" คือรูปแบบการทำแซกีร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นทางเลือกนอกเหนือจากการใช้แปลงฝังขนาดใหญ่ รูปแบบนี้มักเป็นการติดตั้งขนาดเล็กในพื้นที่สุสานหรือเมมโมเรียลปาร์ค โดยมีศูนย์กลางเป็นรูปสลักหิน "เต่ามังกร" หรือ "หลงกุย"

เต่ามังกรเป็นสัตว์เทพในตำนานที่รวมพลังของสัตว์มงคลสองชนิดเข้าไว้ด้วยกัน

หัวมังกร (Dragon Head): เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ บารมี ความสำเร็จ และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

กระดองเต่า (Turtle Shell): เป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาว สุขภาพที่แข็งแรง ความมั่นคง และการปกป้องคุ้มครองจากภยันตราย

แซกีเต่ามังกรจึงถูกนำเสนอในฐานะรูปแบบที่เข้าถึงง่ายกว่า ทำหน้าที่เป็น "สมอพลังงาน" หรือเครื่องรางทรงพลังที่คอยส่งกระแสพลังงานบวกให้กับเจ้าของดวงชะตาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่เท่าสุสานจริง

 

  • 3.2 ความสำคัญของซินแสและความเสี่ยงที่ต้องระวัง 

ความสำเร็จของพิธีกรรมทั้งฮวงจุ้ยสุสานและแซกี ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถและจรรยาบรรณของซินแสเป็นอย่างยิ่ง การคำนวณหรือการเลือกสถานที่ที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม จากดีกลายเป็นร้ายได้ ความเสี่ยงที่สำคัญประกอบด้วย

การเลือกชัยภูมิที่ไม่ถูกต้อง: การทำพิธีในพื้นที่ที่ฮวงจุ้ยไม่ดี จะทำให้เจ้าชะตาดูดซับพลังงานด้านลบและนำมาซึ่งโชคร้าย

สิ่งของแทนตัวที่ไม่บริสุทธิ์: หากมี DNA ของบุคคลอื่นปะปนเข้าไป อาจทำให้พลังงานถูกส่งไปผิดที่หรือเกิดผลเสียที่ไม่คาดคิด

การละเลยพิธีกรรมที่ถูกต้อง: การไม่บวงสรวงขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางอย่างถูกต้องอาจทำให้พิธีไม่ได้ผลหรือเกิดอาถรรพ์ได้

ความขัดแย้งทางพลังงานในครอบครัว: หากพลังงานของแซกีขัดกับดวงชะตาของสมาชิกในครอบครัว อาจก่อให้เกิดความไม่สงบสุขภายในบ้าน

 

  • 3.3 การประเมินค่าใช้จ่ายและผลลัพธ์ที่คาดหวัง 

การทำแซกีถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ โดยมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 40,000 ถึง 200,000 บาท หรืออาจสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของซินแส สถานที่ และขนาดของพิธีกรรม การเกิดขึ้นของธุรกิจบริการด้านนี้อย่างครบวงจร เช่น สุสานเนอร์วาน่า หรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะทางอย่าง "แซกีเต่ามังกร" สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของศาสตร์โบราณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ แนวโน้มนี้ทำให้ศาสตร์ลี้ลับเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่แก่นแท้ทางจิตวิญญาณอาจถูกบดบังด้วยการตลาดและการค้า

ในด้านผลลัพธ์ ผู้ประกอบพิธีมักอ้างอิงถึงกรณีศึกษาและคำบอกเล่าจากผู้มีประสบการณ์ เช่น การฟื้นฟูธุรกิจที่ใกล้ล้มละลาย การได้โครงการขนาดใหญ่ การได้รับเงินที่คาดว่าจะสูญไปคืน หรือสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

✅อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าฮวงจุ้ยไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนของสมการแห่งโชคชะตา หลังจากทำแซกีแล้ว "ชะตาคน" หรือการกระทำของตนเองยังคงเป็นปัจจัยชี้ขาด

ศาสตร์แซกีอาจช่วยเปิดประตูแห่งโอกาส แต่ผู้ที่ต้องก้าวเดินผ่านประตูนั้นไปก็คือตัวของเจ้าชะตาเอง

 

บทสรุป: การบูรณาการศาสตร์โบราณสู่ชีวิตยุคใหม่ 

ศาสตร์ฮวงจุ้ยสุสาน (อิมไจ๋) และการทำแซกี (เจ่าอุ่ง) คือสองด้านของเหรียญเดียวกันที่สะท้อนความปรารถนาของมนุษย์ในการทำความเข้าใจและควบคุมโชคชะตา "อิมไจ๋" คือการเชื่อมต่อกับรากเหง้าและรับพลังสนับสนุนจากบรรพบุรุษ เป็นอิทธิพลพื้นฐานที่ส่งผลต่อวงศ์ตระกูลในระยะยาว ในขณะที่ "แซกี" คือเครื่องมือเชิงรุกสำหรับคนยุคใหม่ ที่ให้อำนาจในการปรับเปลี่ยนและสร้างสรรค์เส้นทางชีวิตของตนเอง

  • การที่ศาสตร์โบราณเหล่านี้ยังคงได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 21 บ่งชี้ถึงความต้องการที่ลึกซึ้งในการแสวงหาความมั่นคงและความหมาย ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ได้มอบกรอบความคิดที่เชื่อมโยงอดีต (บรรพชน) เข้ากับอนาคต (การสร้างโชคชะตา) และให้อำนาจแก่ปัจเจกบุคคลในการเป็นผู้กำหนดทิศทางชีวิต
  • ท้ายที่สุดแล้ว ภูมิปัญญาที่แท้จริงของศาสตร์เหล่านี้อยู่ที่การกลับไปสู่หลักการพื้นฐานของ "ฟ้า-ดิน-คน" แม้การปรับแก้ "ชะตาดิน" ผ่านฮวงจุ้ยจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่จะเกิดประสิทธิผลสูงสุดก็ต่อเมื่อทำงานร่วมกับ "ชะตาคน" นั่นคือการมีคุณธรรม ความขยันหมั่นเพียร และการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ความสำเร็จที่ยั่งยืนที่แท้จริงจึงไม่ได้มาจากการพึ่งพิงพลังงานภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความสมดุลอันกลมกลืนของพลังทั้งสามส่วนในชีวิตนั่นเอง

10 ความได้เปรียบที่คุณจะได้รับ เมื่อติดต่อเรา

1.เราเป็นทีมที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ
2.เราเชี่ยวชาญธุรกิจสุสานและแซกีมากว่า 9 ปี
3.มีทีมผู้เชี่ยวชาญให้บริการผู้ล่วงลับครบวงจร เช่นพิธีกรรมต่างๆ
4.เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา ช่วยเลือกชัยภูมิเฉพาะบุคคล
5.ช่วยคัดสรรซินแสที่มีคุณธรรมและความเชี่ยวชาญที่แท้จริง และตรงใจลูกค้า
6.เก็บรักษาความลับลูกค้าด้วยความเคารพอย่างสูง
7.เอกสิทธิ์รับ Premium Gift สุดพิเศษจากทีมงานของเรา
8.อภินันทนาการจากครูโหราศาสตร์ขั้นสูง รับคำทำนายเจาะลึกบั้นปลายชีวิตเพื่อการวางแผนล่วงหน้า
9.บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมา
10.เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เราเชิญท่านทำสัญญาบริการใดๆที่สำนักงานใหญ่ บ.เนอร์วาน่าฯ. เท่านั้น

แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม 

1.Joey Yap's Mastery Academy of Chinese Metaphysics https://www.joeyyap.com/
2.Lillian Too's Feng Shui World https://www.lillian-too.com/
3.World of Feng Shui (WOFS) - Lillian Too's approach to Yin House
4.Classical Feng Shui Theory on Water & Wealth
5.Sheng Ji: The Living Tomb Feng Shui Manual
6.Feng Shui Misinterpretations and Risks